Ashley Tukes-Karnick นักวิ่งมืออาชีพ เธอได้รับการขนานนามว่าเป็น 4x All American ในระยะ 800 เมตร และ วิ่ง 1,000 เมตร เป็นแชมป์แห่งชาติในระยะ 1,000 เมตร อนาคตของเธอดูจะสดใสดีเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่เธอต้องก้าวข้ามอุปสรรคหลายๆ อย่างในชีวิต รวมถึงโรคมะเร็ง โรคแพ้ภูมิตัวเอง อุบัติเหตุทางรถยนต์ และการสูญเสียบุคคลที่มีอิทธิพลต่อตัวเธอมากที่สุดสองคนในชีวิตของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ในคอนเทนต์นี้ Ashley จะมาแบ่งปันเรื่องราวของเธอให้ฟังแล้วคุณจะรู้ว่าคุณเองก็สามารถเอาชนะอุปสรรคในชีวิตได้เช่นกัน

Ashley Tukes-Karnick บอกว่า ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด สิ่งหนึ่งที่รู้คือคุณไม่สามารถหยุดใช้ชีวิตได้ แม้ว่าสิ่งที่คุณต้องการจะทำต่อไปผลจะออกมาเป็นการล้มเลิกหรือพ่ายแพ้ก็ตาม ฉันต้องแข่งขันและสร้างผลงานให้ดีที่สุด แต่ฉันพบว่าฉันเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์และโรคเกรฟส์ วันหนึ่งขณะอุ้มลูกสาวฉันบอกตัวเองว่า “ฉันจะสอนเธอได้อย่างไรว่าอย่ายอมแพ้ในชีวิต ถ้าเธอได้เห็นแม่ของเธอละทิ้งความฝันและเป้าหมายในชีวิตของเธอ ฉันจึงลุกขึ้นสวมรองเท้าและบังคับตัวเองให้เริ่มฝึกใหม่อีกครั้ง”

ร่างกายคุณอาจจะเป็นตัวผลักดันได้ดี แต่การต่อสู้ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ภายในจิตใจ คุณต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าคุณตัวคุณในวันนี้ยังดีกว่าตัวคุณในวันที่เลวร้ายที่สุดที่คุณเคยผ่านมา

ในปี 2011 ฉันต่อสู้กับอาการจิตตกเนื่องจากการสูญเสียคนในครอบครัวไป จนฉันคิดว่าฉันไม่เหลือความตั้งใจที่จะแข่งต่ออีกแล้ว เพราะพวกเขาเป็นส่วนสำคัญและเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ฉันทำทุกสิ่งได้ดีที่สุด เมื่อพวกเขาจากไปแล้วฉันก็ไม่พบแรงจูงใจในการใช้ชีวิตอีกเลย แต่หลังจากนั้นฉันก็มีลูกสาว เมื่อเธออายุได้ 2 ขวบฉันก็เริ่มฝึกใหม่อีกครั้ง ฉันเกือบจะยอมแพ้เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทลายกำแพงของตัวเอง แต่ฉันยังคงฝึกฝนและฝึกซ้อมร่างกายของฉันให้จำได้ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยเป็นใคร และในปี 2014 ฉันก็ได้รับรางวัล USATF Club Nations 400 m ขอแค่คุณไม่ยอมแพ้กับมันชีวิตต้องเดินไปข้างหน้าเสมอ

อุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 2017 ทำให้ฉันต้องออกจากการแข่งขันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ฉันคิดว่าฉันจะไม่แข่งขันอีกแล้ว แต่ในปี 2019 ฉันได้เข้าร่วมการแข่งขัน Detroit Free Press Supreme Challenge ซึ่งเป็นรายการแข่ง One Mile 5k จากนั้นก็คือ Full International Marathon ในวันถัดไป แม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในระดับที่ฉันเคยเป็น แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณตัวฉันที่สามารถก้าวผ่านมันมาได้ 

ฉันรู้สึกโชคดีที่มีผู้ที่คอยสนับสนุนฉันและช่วยเหลือฉันให้สามารถฟื้นตัวได้เสมอมา ตั้งแต่ครอบครัว เพื่อน ไปจนถึงแพทย์และนักกายภาพบำบัด ฉันขอบคุณพวกเขาทุกคนที่ทำงานหนักร่วมกับฉัน 

ฉันจะไม่สามารถทำสิ่งที่ฉันสามารถทำได้หากปราศจากกำลังใจการสนับสนุนจากพวกเขา ฉันรู้สึกดีใจที่ได้พบกับนักวิ่งมากมายในการเดินทางบนเส้นทางของฉัน พวกเขาแต่ละคนมีเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจของตัวเองและแบ่งปันกับคนรอบตัวเสมอ ฉันจึงใช้พลังนั้นเพื่อผลักดันตัวเองไปข้างหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ หมายความว่าแรงผลักดันที่สามารถช่วยให้เราก้าวผ่านอุปสรรคไปได้ไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกเสียจากคนรอบตัวที่ดีและกำลังใจที่ดี

  1. คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม 
  2. อย่ายอมแพ้ในสิ่งที่คุณชอบ และลงมือทำมันให้เต็มที่
  3. ชีวิตสั้นเกินไป คุณต้องทำในสิ่งที่คุณต้องทำให้ได้เท่าที่ทำได้

▪อย่าเก็บความเสียใจหรือเข้านอนด้วยความเสียใจใดๆ

▪กำลังใจจากคนรอบตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ หากคุณรู้สึกไม่สบายใจเพียงแค่โอบกอดใครสักคนเอาไว้ก็พอ

▪เรียนรู้ที่จะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการจะทำและเลิกสงสัยในตัวเองเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้ เพียงแค่ลงมือทำให้เต็มที่ 

▪ใช้ชีวิตทุกวันของคุณแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมื่อเราทำบางอย่างแบบไม่หวังผลเราจะได้สิ่งดีๆ กลับมาเสมอ

เครดิตคอนเทนต์ : https://blog.honeystinger.com/3-tips-to-persevering-through-lifes-hurdles-with-ashley-tukes-karnick/