ผู้ที่ออกกำลังกายหลายท่านไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พึ่งเริ่มหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริงจังคงจะเคยพบเจอกับอาการบาดเจ็บหลังออกกำลังกายหรือระหว่างที่ออกกำลังกายกันแล้วทั้งนั้น ซึ่งอาการบาดเจ็บที่เรากำลังจะพูดถึงกันนี้ไม่ได้หมายความถึงการหกล้มเป็นแผลหรือประสบอุบัติเหตุแต่อย่างใด อาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายในอีกมุมนั้นหมายความว่า “อาการที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายร่างกาย” เช่น ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว ปวดขา ปวดหลัง ปวดคอ และอีกหลากหลายอาการที่ทำให้เรานั้นรู้สึกไม่สบายและไม่พร้อมที่จะออกกำลังกาย

ส่วนมากผู้ที่เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังมักเจอกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งบางครั้งอาการปวดกล้ามเนื้อมักจะไม่ค่อยเจอกันในขณะที่ออกกำลังกายเสร็จแล้ว แต่มันจะเกิดหลังที่คุณพักผ่อนไปแล้ว เช่น เราจะรู้สึกได้ว่าออกกำลังกายเสร็จแล้วนอนหลับสบายมากแต่พอตื่นมาตอนเช้ากลับมีอาการปวดขาจนขาสั่นออกแรงเยอะๆ แล้วเจ็บขา เป็นต้น วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันครับ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้มีค่อนข้างหลายอย่าง ซึ่งอย่างแรกเลยคือตัวผู้ออกกำลังกายอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าสะสมหรือไม่ได้มีการวอร์มร่างกายให้กล้ามเนื้อคลายตัวก่อน การเหนื่อยล้าสะสมนั้นเราจะรู้สึกได้น้อยมากๆ ในช่วงที่ออกกำลังกายไปแล้วสักระยะ แต่เราจะค่อยๆ รู้สึกเมื่อยๆ เหนื่อยล้าๆ ทุกครั้งหลังออกกำลังกายถึงจะไม่มากก็ตาม แต่เมื่อเราออกกำลังกายทุกครั้งแล้วพักผ่อนไม่เพียงพอร่างกายฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ มันก็เป็นเหตุที่ความเหนื่อยล้าจะสะสมได้

ความเหนื่อยล้าของร่างกายก็คล้ายๆ กับเงินเวลาเราขายของครับ ยิ่งขัยนมากขายได้มากก็ยิ่งได้กำไร เช่นกันกับการออกกำลังกาย ยิ่งเราออกกำลังกายบ่อยๆ โดยไม่หยุดพัก กำไรที่ได้จากการออกกำลังกายคือร่างกายแข็งแรง แต่บางครั้งอาจจะได้เรื่องการเหนื่อยล้าสะสมมาเป็นของแถม จนรู้สึกได้ว่าเมื่อเราออกกำลังกายติดต่อกันหลายวันโดยไม่หยุดพักเราจะปวดกล้ามเนื้อปวดเนื้อปวดตัวมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันหรือให้อาการบาดเจ็บลดน้อยลงจากกรณีแบบนี้คือ เราต้องรู้จักสภาพร่างกายของตัวเองให้ดีพอว่าออกกำลังกายหนักได้ประมาณไหน ควรจะออกติดต่อกันกี่วันแล้วหยุดพัก หรือควรทานอาหารเสริมอะไรหรือไม่ วอร์มร่างกายยืดเส้นยืดสายก่อนทุกครั้ง และ ควรแบ่งตารางการออกกำลังกายให้มีความบาลานซ์กับการพักผ่อนที่เพียงพอครับ

ปัจจัยต่อมาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ เรื่องของการฝึกซ้อมและความบกพร่องของสถานที่ที่ใช้ออกกำลังกาย การฝึกซ้อมนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ และทุกท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าฝึกซ้อมไม่พอร่างกายเราไม่ได้ปรับสภาพให้คุ้นชินกับการออกกำลังกายก็จะออกกำลังกายที่มีความหนักหน่วงมากกว่าที่เราทำในปัจจุบันไม่ได้ หรือ บางท่านขาดการซ้อมมานานแล้วกลับมาออกกำลังกายใหม่อีกครั้ง ก็อาจจะออกกำลังกายได้ไม่หนักเท่าเดิมมันจึงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในขณะออกกำลังกายได้ เพราะกล้ามเนื้อเราไม่ได้คุ้นชินกับการฝึกซ้อมแล้วนั่นเอง

แต่ที่น่าสงสัยคือเรื่องความบกพร่องของสถานที่ออกกำลังกาย มันมีส่วนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้จริงหรือ? ต้องตอบว่าได้!  เราขอเปรียบเทียบกับการปั่นจักรยานในสนาม กับ การปั่นในทางลูกรัง คงจะเห็นภาพที่สุด การปั่นบนถนนที่เป็นทางเรียบย่อมมีความสบายกว่าการปั่นทางลูกรังอยู่แล้ว เพราะว่าการปั่นในทางลูกรังนั้นจะมีทั้งหลุม หิน ดิน ทราย ก้อนกรวด กิ่งไม้ ผิวถนนที่ไม่เรียบ ทำให้ในขณะปั่นเกิดแรงสะเทือน แรงสั่นสะเทือนก็จะถูกส่งผ่านมาทางตะเกียบและล้อ ผ่านเฟรมจักรยาน มาถึงแฮนด์จักรยาน ซึ่งมือของนักปั่นจับอยู่ที่แฮนด์ก็ต้องได้รับแรงสั่นสะเทือนด้วย แล้วแรงสั่นสะเทือนจากแขนก็ส่งผลมาที่ไหลของนักปั่น ทำให้บางครั้งอาจจะมีอาการปวดไหล ปวดคอ ปวดมือ เป็นต้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่บอกว่าความบกพร่องของสถานที่ก็มีผลทำให้เราเกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน

การกระแทกหรือการลงน้ำหนักอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ถ้าจะยกตัวอย่างให้ง่ายที่สุดคือในกรณีของผู้ที่วิ่งแล้วหันมาปั่นจักรยานแทน เราเคยเจอกรณีตัวอย่างแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งที่นักวิ่งบางท่านเปลี่ยนมาปั่นจักรยานมากกว่า เพราะว่าการวิ่งที่ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรมากแต่หารู้ไหมว่ามันมีเทคนิคเยอะมากๆ หากคุณไม่มีเทคนิคในการลงน้ำหนักหรือบริหารแรง สิ่งที่จะตามมาแน่นอนคือการปวดตามข้อเข่าและข้อเท้า เพราะว่าการวิ่งคือการลงน้ำหนักจากขาและเท้าไปสู่พื้นโดยตรง มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าผู้ที่วิ่งนั้นมักจะประสบพบเจอกับอาการปวดตามข้อต่างๆ บางท่านสะสมจนต้องหันมาปั่นจักรยานแทนเพราะการปั่นจักรยานไม่ได้มีแรงกระแทกของขาสู่พื้น ทางที่ดีที่สุดของผู้ที่อยากวิ่งในระยะยาวหรือเริ่มต้นวิ่งคือเราต้องใส่ใจกับแรงที่เรากระทำจากเท้าลงสู่พื้น สังเกตได้ว่านักวิ่งมือใหม่บางท่านลงน้ำหนักที่เท้าเยอะมากราวกับกระทืบเท้าอยู่ การลงแรงหนักแบบนั้นไม่ได้ช่วยให้คุณวิ่งได้เป็นระยะเวลานานๆ หรือรู้สึกมั่นคงขึ้นเลย ลองวิ่งเหยาะๆ ลงน้ำหนักเบาๆ ดูครับจะช่วยให้คุณเก็บแรงและลดอาการบาดเจ็บกับขาของคุณได้

มาถึงปัจจัยเล็กๆ ที่หลายคนไม่คิดว่ามันมีส่วนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ก็คือเรื่องของชุดที่เราใส่ออกกำลังกาย ชุดออกกำลังกายที่ดีควรเป็นชุดที่กระชับและเหมาะสมกับกีฬาหรือกิจกรรมที่ทำ นอกจากจะต้องกระชับและสวมใส่สบายแล้วมันยังต้องมีการระบายเหงื่อและความร้อนได้ดีอีกด้วย ไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกอึดอัดตัวเอง เหนื่อยไว และ บางครั้งอาจจะเกิดอันตรายจากความร้อนเกินในร่างกายได้ แต่ถึงอย่างนั้นความกระชับก็เกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี รัดกุมหรือกระชับก็ย่อมได้ แต่ต้องไม่แน่นจนอึดอัด เพราะอาจจะไปรัดมัดกล้ามเนื้อและอาจทำให้เลือดเดินไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่สะดวก นอกจากนี้แล้วองค์ประกอบของชุดออกกำลังกายที่ดีต้องช่วยลดการเสียดสีได้ด้วย เช่น ถุงเท้า ถ้าหากเสียดสีจนเกิดความร้อนอาจจะแสบเท้าหรือเป็นตาปลาได้ อุปกรณ์กีฬาของเราก็ต้องถูกไซส์และเหมาะสมกับตัวเราด้วย เช่น ปั่นจักรยานให้ถูกตามไซส์ของตัวเราเอง รองเท้าวิ่งที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนรัดแน่น เป็นต้น

นี่ก็เป็นปัจจัยหลักๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่าจริงๆ แล้วอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ถ้าหากจะเจาะลึกลงไปจริงๆ ก็จะมีปัจจัยเยอะมากๆ เช่น กรณีของคนปั่นจักรยานก็จะมีในเรื่องขององศาและอุปกรณ์ที่มีผลต่ออาการบาดเจ็บของตัวผู้ปั่นได้อีกด้วย ในพาร์ทต่อไปเดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกกันว่าที่กล้ามเนื้อของเราเกิดอาการบาดเจ็บได้มันเกิดได้เนื่องจากอะไร ยังไงก็ฝากติดตามในพาร์ทต่อไปด้วยครับผม