ทุกท่านมักจะเคยอ่านคอนเทนต์ข้อดีต่างๆ เกี่ยวกับการทานวิตามินกันมาบ้างแล้ว วิตามินเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายก็จริง แต่เคยสงสัยไหมว่าถ้าหากว่าเราได้รับวิตามินบางชนิดมากเกินไปจะมีผลกระทบอะไรต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้ววิตามินอาจจะส่งผลเสียต่อตัวเราก็เป็นได้ วันนี้เราจะพามาอ่านข้อมูลนี้กัน

เว็บไซต์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้บอกว่า วิตามินถือว่าเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่ร่างกายของมนุษย์เราต้องการเพียงเล็กน้อย แต่มีความสำคัญต่อร่างกายมาก เนื่องจากร่างกายจะใช้วิตามินเพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆ ซึ่งทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นไปได้อย่างปรกติ 

วิตามินนั้นไม่สามารถให้พลังงานได้โดยตรงกับร่างกาย แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามินเพื่อทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน โดยเราสามารถรับวิตามินได้จากหลายแหล่ง เช่น พืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่มต่างๆ หรือ ในปัจจุบันก็มีวิตามินที่มาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกด้วย

วิตามินที่มาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดอาจผลิตออกมาไม่ได้ตามมาตรฐานและมักจะมีสารเคมีบางชนิดปะปนอยู่ หากทานเป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะเกิดการตกค้างจนทำให้ตับของเราทำงานหนักขึ้นได้

วิตามินหรือวิตามินในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ หากละลายในน้ำได้ไม่ดีก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซับวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเกิดการตกค้างในร่างกาย วิตามินบางชนิดที่ตกค้างหรือได้รับมากเกินไปก็จะส่งผลต่อตับและไตโดยตรง อีกทั้งวิตามินบางชนิดหากได้รับมากเกินไปก็อาจจะทำให้โรคประจำตัวกำเริบได้ด้วย 

ในมุมของผู้ที่ทานวิตามินรวมเกินปริมาณที่จำเป็นต่อร่างกาย วิตามินแต่ละชนิดก็สามารถขัดขวางการดูดซึมซึ่งกันและกันได้ด้วย เช่น แคลเซียมจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กถ้าหากทานในปริมาณที่มาก ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นสรุปได้ว่าการบริโภควิตามินนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายนั่นเอง 

อ้างอิงจากเว็บไซต์ Thai RDI สำหรับสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข ควรบริโภควิตามินในปริมาณที่พอเหมาะดังนี้ 

วิตามินเอ (Vitamin A) 800 ไมโครกรัม อาร์อี (μg RE) 

วิตามินบี 1 (Thiamin) 1.5 มิลลิกรัม (mg) 

วิตามินบี 2 (Riboflavin) 1.7 มิลลิกรัม (mg)

วิตามินบี 6 (Vitamin B6) 2 มิลลิกรัม (mg) 

วิตามินบี 12 (Vitamin B12) 2 ไมโครกรัม (μg)  

วิตามินซี (Vitamin C) 60 มิลลิกรัม (mg) 

วิตามินดี (Vitamin D) 5 ไมโครกรัม (μg)

วิตามินอี (Vitamin E) 10 มิลลิกรัม แอลฟา-ทีอี (mgα-TE) 

วิตามินเค (Vitamin K) 80 ไมโครกรัม (μg) 

แคลเซียม (Calcium) 800 มิลลิกรัม (mg) 

แมกนีเซียม (Magnesium) 350 มิลลิกรัม (mg) 

โพแทสเซียม (Potassium) 3,500 มิลลิกรัม (mg)

โซเดียม (Sodium) 2,400 มิลลิกรัม (mg) 

คลอไรด์ (Chloride) 3,400 มิลลิกรัม (mg)

จากที่เราได้กล่าวมาตั้งแต่แรก สรุปได้ว่าการเลือกบริโภควิตามินที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีปริมาณที่เหมาะสม และ ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เป็นเรื่องที่ดี ทางเลือกหนึ่งในการบริโภควิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ Nuun Vitamins ซึ่งเป็นเม็ดฟู่วิตามินแบบละลายน้ำ ที่สามารถละลายในน้ำได้อย่างรวดเร็ว ได้รับการรับรองจากองค์กรต่างๆ มากมาย เช่น NON-GMO รับรองว่าไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม INFORMED SPORT รับรองว่าไม่มีสารต้องห้ามสำหรับนักกีฬา รับรองเครื่องหมาย GLUTEN FREE แสดงให้เห็นว่าไม่มีส่วนผสมของแป้งบางชนิดที่อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับท้องไส้ของคุณ และ เครื่องหมาย VEGAN ที่บ่งบอกว่าผู้ที่ทานมังสวิรัติก็สามารถดื่มได้ จึงเป็นผลิตภัณฑ์วิตามินที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นมิตรต่อผู้ดื่ม และ ไม่มีสารตกค้างจากการบริโภค สามารถดื่มได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย