ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมแบบใดก็ล้วนต้องใช้พลังงานทั้งหมด ซึ่งแหล่งพลังงานที่คนเราสามารถหาได้ก็มีหลากหลายอย่าง แต่ถ้าหากว่าพลังงานที่เราต้องใช้ในการทำกิจกรรมไม่พอจะเป็นอย่างไร 😯❗
ตามที่เราทราบกันมาโดยตลอดว่าพลังงานที่ได้รับกันในทุกๆ วันย่อมต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารทั้งหมด โดยในประเภทคาร์โบไฮเดรตจะใช้เวลาในการย่อยประมาณ 30 นาที โปรตีนประมาณ 60 นาที และ ไขมันประมาณ 2 ชั่วโมง จากจุดนี้ทำให้เรารู้ได้ว่าสารอาหารแต่ละประเภทใช้เวลาในการย่อยเพื่อเปลี่ยนมาเป็นพลังงานให้กับตัวเราต่างกันแค่ไหน เราจึงสามารถคำนวณเวลาในการทานอาหารเพื่อเติมพลังงานให้ร่างกายได้ 😎
แต่ถ้าหากว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถรอพลังงานจากกระบวนการย่อย หรือ ร่างกายต้องการพลังงานอย่างทันท่วงที อย่างเช่นตอนออกกำลังกาย ก็มีอาหารประเภทหนึ่งที่สามารถดึงพลังงานออกมาใช้ได้ทันทีและตอบโจทย์มากกว่า นั่นก็คือ เจลเพิ่มพลังงาน หรือ เยลลี่เพิ่มพลังงาน 😳❤️
ถึงจะบอกว่าเราสามารถคาดเดาเวลาในการย่อยอาหารก่อนออกกำลังกายได้ แต่ผลที่ตามมานอกเหนือจากที่จะได้รับพลังงานจากกระบวนการย่อยอาหาร คือ เราอาจจะหนักท้อง ปวดท้อง หรือ เกิดอาการจุกแน่นท้อง ทำให้เราออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร 😣
ทั้งนี้ถ้าหากเราไม่ทานอะไรเลยก่อนทำกิจกรรมเพราะกลัวว่าจะเกิดผลกระทบต่อท้องไส้ก็มีผลกระทบเช่นกัน เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจะมีพลังงานเพียงพอต่อการทำกิจกรรมไหม ผลที่ตามมาเมื่อพลังงานเราหมดก็คือ เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง หน้ามืด เวียนหัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลม ฯลฯ 😰
สิ่งที่ดีและตอบโจทย์ที่สุดก็คือการทานอาหารที่สามารถย่อยได้ง่าย ได้รับพลังงานอย่างทันท่วงที และ สบายท้อง ไปในเวลาเดียวกัน เราจึงจะเห็นว่านักวิ่งมักจะนิยมพกเจลเพิ่มพลังงานกัน เพราะว่าเจลเพิ่มพลังงานนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารและพลังงานที่เยอะมาก เจลเพิ่มพลังงาน 1-2 ซอง ช่วยให้เรามีพลังงานเพียงพอที่จะวิ่งได้ 5-10 กิโลเมตร ทั้งนี้เจลเพิ่มพลังงานยังเป็นแหล่งพลังงานที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมและเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ในทันที และ สบายท้องมากที่สุด ทำให้ผู้ออกกำลังกายไม่มีผลข้างเคียงจากการออกกำลังกายครับ 😊🎉