คอนเทนต์เกี่ยวกับยางที่ผ่านมาเมื่อครั้งก่อนเราได้พูดถึงเรื่องของการเลือกใช้ยางและความเป็นจริงเรื่องหน้ายางแต่ละขนาดไปแล้ว แต่สิ่งที่เรายังขาดและมีนักปั่นเสนอเข้ามาคือเรื่องของ Specifications ของล้อจักรยาน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันว่าเรื่องของล้อมันมีความเกี่ยวข้องกับยางมากแค่ไหนแบบเข้าใจง่ายๆ สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะมองหาล้อจักรยานดีๆ มาใช้กับยางดีๆ สักเส้นครับ

เรื่องของล้อจักรยานนั้นถ้าหากแบ่งเป็นประเภทก็จะแบ่งได้ 2 แบบ คือ ล้อคาร์บอน และ ล้ออลูมิเนียม ซึ่งอย่างแรกที่เราควรจะดูเวลาเลือก คือ ดูตามประเภทของเบรกที่เราใช้งานกับจักรยาน โดยจะแบ่งเป็นสองแบบ คือ ริมเบรก และ ดิสก์เบรก ปกติแล้วการเลือกซื้อล้อจักรยานเราจะต้องถามผู้ขายด้วยว่ามีล้อที่ใช้กับระบบเบรกที่เราใช้อยู่ได้หรือไม่ วิธีที่เช็คง่ายๆ คือ ถ้าเป็นล้อที่ใช้กับริมเบรกนั้นจะมีขอบเบรกที่ล้อไม่ว่าจะเป็นล้อคาร์บอนหรือล้ออลูมิเนียมก็ตาม ถ้าเป็นล้อที่ใช้กับริมเบรกเราจะเห็นได้เลยว่ามีขอบเบรกชัดเจน แต่ในปัจจุบันล้อคาร์บอนมีการพัฒนาด้านเนื้อขอบเบรกที่อาจจะดูกลมกลืนเหมือนกับเนื้อขอบล้อเพราะฉะนั้นต้องสังเกตให้ดี ถ้าเป็นล้อดิสก์เบรกจะไม่มีขอบล้อผิววัสดุล้อจะเรียบเนียนแต่จะมีตรงดุมล้อที่มีช่องเอาไว้ใส่ใบดิสก์เบรก

ขนาดความสูงและความอ้วนของขอบล้อ โดยทั่วไปแล้วทั้งล้ออลูมิเนียมและล้อคาร์บอนจะมีหลายขนาด โดยเฉพาะล้อคาร์บอนเราจะเห็นว่ามีขนาดความสูงให้เลือกเยอะมาก แต่ละแบรนด์ก็จะมีขนาดที่ต่างกันออกไปบางแบรนด์ก็ขนาดคล้ายกัน เราจะเห็นว่าทั้งล้ออลูมิเนียมและล้อคาร์บอนนั้นมีขนาดความสูงเริ่มตั้งแต่ 15 – 82 มม. เลย ซึ่งสูงกว่านั้นหรือเป็นคาร์บอนทั้งล้อเลยก็มี แต่เรื่องของความสูงของล้อนั้นเป็นเรื่องของความชอบของผู้ปั่น ยิ่งขอบล้อสูงก็ยิ่งทำให้รถดูเท่ดูสวย แต่ความสูงก็มีผลต่อการปั่นเช่นกัน ยิ่งขอบสูงเมื่อเราปั่นถึงความเร็วที่เค้าเคลมก็จะยิ่งรู้สึกสบายขามากขึ้นและเติมแรงน้อย เช่น ล้อขอบ 50 มม. เมื่อถึงความเร็ว 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะรู้สึกว่าเราเติมแรงน้อยแล้วความเหวี่ยงของล้อก็จะทำให้รถเราไหลไปได้เรื่อยๆ ล้อขอบต่ำก็จะทำให้ปั่นสบายขาแต่ถ้าจะทำความเร็วสูงๆ ก็ต้องเติมแรงเยอะเป็นพิเศษ แต่จะสบายในการปั่นไต่เขา

อย่างที่กล่าวไปว่าเป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนที่จะเลือกใช้ล้อความสูงเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือความอ้วนของขอบล้อ ปัจจุบันล้อจักรยานเริ่มมีความอ้วนเยอะแล้วเพื่อรองรับหน้ายางในปัจจุบันที่มีความกว้างเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต่างกับแต่ก่อนที่จะมีแค่ 21 มม. กับ 23 มม. ความอ้วนของขอบล้อที่เยอะขึ้นมีผลต่อการเลือกใช้หน้ายางอีกด้วย หากขอบล้ออ้วนมากๆ เช่น 25 หรือ 28 มม. ก็อาจจะใส่ยางหน้า 21 มม. ไม่ได้ กลับกันถ้าขอบล้อแคบมากๆ ก็อาจจะใส่ยางที่มีหน้ากว้างๆ ไม่ได้เช่นกัน หรือ บางกรณีจักรยานเรารุ่นเก่ามากๆ ไม่ได้รองรับขอบล้อที่อ้วนและหน้ายางที่กว้างมากๆ เมื่อซื้อยางหน้ากว้างกับล้อขอบอ้วนๆ มาใส่ก็อาจจะเกิดปัญหาติดตะเกียบหรือหางหลังได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คความอ้วนของขอบล้อให้ดีก่อนซื้อทุกครั้งด้วยครับ

ต่อไปจะเป็นเรื่องยาง ซึ่งก่อนที่เราจะซื้อยางเราต้องรู้ก่อนว่าล้อที่เราใช้นั้นรองรับยางประเภทไหน ซึ่งปกติแล้วล้อนั้นจะมีแบ่งเป็นสองแบบคือ ยางฮาร์ฟ และ ยางงัด ถ้าเป็นล้อที่รองรับยางงัดที่ขอบล้อจะมีเขี้ยวเนื่องจากว่าต้องใช้เกี่ยวกับขอบยาง แต่ถ้าหากเป็นล้อยางฮาร์ฟจะไม่มีเขี้ยวเพราะว่ายางฮาร์ฟจะมีลักษณะเป็นยางท่อกลมๆ เวลาติดตั้งจึงต้องใช้เทปยางฮาร์ฟในการติดตั้งกับล้อ ส่วนเรื่องใช้สลับกันได้หรือไม่ ต้องบอกว่าไม่ได้ ยางฮาร์ฟต้องใช้กับล้อยางฮาร์ฟ ยางงัดต้องใช้กับล้อยางงัด ในปัจจุบันจะมียางอีกประเภทที่ได้รับความนิยมคือยางทูปเลสซึ่งมีลักษณะเหมือนกับยางนอก การใช้ยางทูปเลสนั้นจะต้องใช้กับล้อทูปเลสซึ่งปัจจุบันสามารถใช้กับล้อยางงัดรุ่นใหม่ๆ ได้เช่นกันแต่ต้องสังเกตว่าที่ล้อนั้นเขียนว่า Tubeless Ready หรือไม่ ถ้ามีสามารถใช้ยางทูปเลสได้ แต่ถ้าไม่มีก็จะไม่สามารถใช้ได้ครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่คนใช้ล้อคาร์บอนควรต้องรู้และต้องระวังเอาไว้คือค่าความดันลมยางครับ แน่นอนว่าค่าแรงดันลมยางที่สามารถสูบเข้าไปได้ในยางแต่ละรุ่นจะมีเขียนบอกเอาไว้อยู่แล้ว แต่ในล้อคาร์บอนนั้นจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเติมลมยางที่ล้อสามารถรับได้เอาไว้อีกด้วย นอกจากเรื่องการเติมลมยางแล้วล้อเกือบทุกแบรนด์ก็จะมีบอกเรื่องน้ำหนักผู้ปั่นเอาไว้ด้วย แนะนำว่าในการซื้อล้อคาร์บอนเราควรศึกษาค่าต่างๆ ที่ล้อได้บอกเอาไว้ก่อนครับผม