นักปั่นหลายท่านทราบกันแล้วว่ายางงัดก็สามารถใช้แข่งขันได้ แต่ก็ยังเป็นที่ข้องใจกันอยู่ดีว่าในเมื่อยางงัดเกรดแข่งขันก็มีเยอะแยะ แต่ทำไมยังคงเห็นนักปั่นมืออาชีพ ยังเลือกใช้ยางฮาร์ฟอยู่ เป็นเพราะอะไรวันนี้เรามาหาคำตอบกัน

อย่าแรก คือ ความนุ่มนวล ด้วยความที่ยางฮาร์ฟนั้นมีลักษณะเป็นท่อกลม จึงทำให้ยางฮาร์ฟมีความนุ่มนวลที่เยอะกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับเราใช้ยางในที่มีความทนทานสูงมาปั่นจักรยาน ถึงยางฮาร์ฟจะไม่ได้นิ่มเท่ากับยางในเพราะมันเป็นยางเส้นเดียวที่ต้องติดกับล้อจึงต้องมีความทนทานและการเกาะถนนที่ดีขึ้น แต่ที่แน่ๆ มันนุ่มนวลกว่ายางงัดและยางทูปเลสแน่นอน ทำให้นักกีฬามืออาชีพชอบยางฮาร์ฟมากกว่าเพราะช่วยให้นักปั่นสบายและปั่นระยะยาวได้ดี 

เมื่อเห็นยางฮาร์ฟครั้งแรกอาจจะคิดว่าเป็นยางเส้นเดียวแบบนี้อาจจะจุลมได้น้อย แต่กลับไม่ใช่เลย การจุลมของยางฮาร์ฟนั้นสามารถจุได้เยอะกว่ายางงัดมาก ยางงัดดีๆ เส้นนึงหน้ายาง 23 มม. สามารถจุลมได้ 90 – 145 p.s.i. (แล้วแต่แบรนด์และเกรดยาง) แต่ยางฮาร์ฟดีๆ เส้นนึง หน้ายาง 23 มม. สามารถจุลมได้ 115 – 220 p.s.i.  ซึ่งการจุลมได้เยอะกว่ายางประเภทอื่นก็มีข้อดีสำหรับการแข่งขันอยู่เยอะแยะเลยทีเดียว

ด้วยลักษณะที่เป็นยางแบบท่อเดียวแน่นอนว่ามันต้องมีความกลมกว่ายางประเภทอื่น และเนื่องจากว่าการใช้ยางฮาร์ฟต้องใช้ล้อสำหรับยางฮาร์ฟโดยเฉพาะที่ไม่มีเขี้ยวของขอบล้อสำหรับเกี่ยวขอบยาง จึงทำให้เวลาเราติดตั้งยางฮาร์ฟเข้าไป ยางจะยังคงสภาพความกลมและไม่มีขอบล้อสูงจนถึงแก้มยาง ข้อดีส่วนนี้ทำให้ได้ในเรื่องความนุ่มและการเกาะถนนตอนเข้าโค้งที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใช้แข่งขันแล้วได้เปรียบไม่มากก็น้อยเลย

หากดูน้ำหนักของยางที่ด้านข้างกล่อง เราอาจจะสังเกตว่าน้ำหนักของยางงัดและยางฮาร์ฟ ในหน้ายางขนาดเท่ากัน มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน แต่รู้ไหมว่าน้ำหนักที่เขียนไว้ของยางงัดยังไม่ได้รวมน้ำหนักของยางในเข้าไปด้วย จึงทำให้ตอนแรกที่ดูเหมือนน้ำหนักจะใกล้เคียงกัน แต่ความจริงแล้วยางฮาร์ฟเบากว่า ก็เป็นผลดีต่อการใช้แข่งขันในหลายด้านเลย

เมื่อเปรียบเทียบลักษณะของยางงัดและยางฮาร์ฟ จะรู้เลยว่าต่างกัน เพราะยางงัดต้องใช้ยางใน แต่ยางฮาร์ฟไม่ต้องใช้ ทำให้ตอนปั่นแรงเสียดทานจากการปั่นจะน้อยมากสำหรับยางฮาร์ฟ แต่ยางงัดจะมีแรงเสียดทานจากภายในตัวยาง ทำให้ค่า rolling resistance จากยางฮาร์ฟดีกว่า สำหรับการแข่งขันแล้วข้อได้เปรียบเล็กๆ น้อยๆ อาจจะส่งผลให้พลิกจากแพ้เป็นชนะได้เลยทีเดียว 

ถึงจะติดตั้งยุ่งยาก แต่ยางฮาร์ฟเป็นยางที่ใช้ปั่นจริงหรือแข่งขันแล้วสะดวกสบายมากในหลายๆ มิติ เช่นเรื่องของการรั่วซึมของลมยาง การใช้ยางฮาร์ฟเราจำเป็นต้องใช้น้ำยา Sealant เพื่อป้องกันการเจาะทะลุ ทำให้เวลายางรั่วเราก็ยังสบายใจได้ว่าน้ำยาที่เราเติมไปนั้นจะสมานรอยรั่วในทันทีและปั่นต่อไปได้ ต่างจากยางงัดที่ใช้งานง่ายแต่รั่วแล้วเราต้องมานั่งตากแดดงัดยางในเปลี่ยน 

ด้วยความที่สามารถจุลมได้เยอะกว่าทำให้ผิวหน้ายางที่สัมผัสพื้นนั้นน้อยกว่ายางประเภทอื่น เเรงเสียดทานของยางกับพื้นถนนจึงน้อยและไปได้เร็วกว่า และด้วยความกลมของยางฮาร์ฟยังช่วยให้เข้าโค้งได้ดีมีความนุ่มนวลสูงด้วย เรื่องแรงเสียดทานก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการแข่งจักรยานเลยก็ว่าได้ เพราะทำให้นักปั่นไม่ต้องเสียเเรงไปโดยไม่จำเป็น  

ในกรณีของการตกหลุมหรือกระแทกอย่างรุนเเรงการใช้ยางฮาร์ฟจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะว่าล้อของยางฮาร์ฟจะไม่มีขอบที่ใช้เกี่ยวยางเหมือนยางงัด ทำให้โอกาสที่ตกหลุมหรือกระแทกแรงๆ โอกาสที่ยางจะแตกจากขอบล้อเกิดขึ้นได้น้อยมาก ตัดภาพมาที่ยางงัดเวลาตกหลุมหรือกระแทกแรงๆ ยางในมีโอกาสไปโดนขอบล้อแล้วแตกหรือรั่วสูงกว่า 

ข้อนี้น่าจะเกือบเป็นเหตุผลหลักที่นักปั่นมืออาชีพเลือกใช้ยางฮาร์ฟเลยก็ว่าได้ เรามักจะเห็นว่าในการแข่งขันมักมีรถเซอร์วิสของทีมคอยขับตามเพื่อที่จะเปลี่ยนล้อหรือเปลี่ยนจักรยานไปเลยทั้งคันด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ยางฮาร์ฟรั่วน้ำยาภายในยางจะทำการอุดรอยทันทีและทำให้ลมออกจากยางไม่มากและสามารถใช้ปั่นต่อไปได้อีกสักระยะเพื่อรอรถเซอร์วิสมาเปลี่ยนล้อหรือจักรยานคันใหม่ได้โดยที่เสียเวลาและระยะทางในการตามกลุ่มไม่มากนั่นเอง แต่ถ้าใช่ยางงัดเมื่อรั่วแล้วคือเรียบร้อยจอดข้างทางอย่างเดียวทำให้เสียเวลาและระยะทางในการปั่นตามกลุ่มด้วย